วันจันทร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

สอนวิธีการอ่านพื้นดวงในระบบธาตุ

         บทความสอนวิธีการอ่านพื้นดวงในระบบธาตุ   ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับระบบอื่นได้อย่างดี  เพราะระบบธาตุจะเป็นระบบที่เป็นกลางมากที่สุด  ในบทความนี้จะสอนขั้นตอนพื้นฐานที่สำคัญในการอ่านพื้นดวง  สอนการอ่านทุกมุมสัมพันธ์อย่างละเอียด    และขอเชิญทุกท่านที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการอ่านพื้นดวงก็ส่งคำถามเข้ามาได้นะครับ     

           
              ความหมายดาวโดยสังเขป  เพื่อใช้เป็นหลักในการพิจารณาในพื้นดวง

ดาวอาทิตย์     =    เป็นดาวธาตุไฟ  ใช้ดูเรื่องตำแหน่ง   ชื่อเสียง   ยศศักดิ์  เป้าหมาย   ความทะเยอ ทะยาน  การวางตัว  มีความเป็นผู้นำ  หยิ่งยโส  รักอิสระ เป็นตัวของตัวเอง  และมักเป็นคนเอาแต่ใจตนเอง  ชอบใช้อำนาจ  รักเกียรติรักศักดิ์ศรี  ไม่ชอบอยู่ภายใต้อำนาจใคร  ฯลฯ  

ดาวจันทร์        =    เป็นดาวธาตุดิน  ใช้ดูอารมณ์   ความอ่อนไหว   ความเอื้อเฟื้อ   การดูแลเอาใจใส่  จินตนาการ   อ่อนหวานนุ่มนวล   มีแง่งอน  ใจอ่อน  ช่างสงสาร  ชอบคิดชอบฝัน  เชื่อคนง่าย และจิตใจอ่อนไหวได้ง่ายไม่หนักแน่น  เปลี่ยนใจง่าย  การดูแลเอาใจใส่  การบริการ  (หมายถึงสตรีอีกด้วย)

ดาวอังคาร       =    ดาวธาตุลม  ใช้ดูความขยัน   การงาน   อุบัติเหตุ   การเจ็บป่วยฉับพลัน   การผ่าตัด   ความขัดแย้ง  การใช้กำลังตอบโต้ที่รุนแรง   แต่ถ้าดาวอังคารอยู่ในตำแหน่งที่ดีจะส่งผลในด้านความมุมานะความขยันขันแข็งไม่ย่อท้อ   และยังหมายถึงมีความสามารถในการทำงานทางด้านการใช้ฝีมืออีกด้วย  คนที่ดาวอังคารเด่นมักมีความสามารถเชิงช่างเกือบทุกประเภท

ดาวพุธ            =    ดาวธาตุน้ำ  ใช้ดูสภาพการเข้าสังคม  กลุ่มเพื่อน  การติดต่อ  การพูดจา  ความคิด การเจรจา ช่างสังเกตพินิจพิจารณา  สามารถปรับตัวได้  มนุษย์สัมพันธ์ดี  เด่นด้านการเป็นตัวแทนหรือนายหน้า   ดาว พุธที่เสื่อมจะทำให้เป็นคนที่ไม่มีความคิดสร้างสรรค์ไม่มีแผนการ   ในการทำสิ่งใดจะขาดปฏิภาณ   และการเจรจาไม่เป็นที่ชื่นชอบต่อคนรอบข้าง   แต่ถ้าดาวพุธเด่นก็จะหมายถึงเป็นผู้ที่มีความคิดดี มีแผนการที่ดี การเจรจาเป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วไป  มีปฏิภาณในการเรียนรู้ในเรื่องต่างๆได้ง่าย  แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี

ดาวพฤหัส         ดาวธาตุดิน   ใช้ดูความคิด  ผู้ใหญ่(ที่บ้าน-ที่ทำงาน)   ครู-อาจารย์  การศึกษา  กฎระเบียบประเพณี   อุดมการณ์   ครูบาอาจารย์ นักวิชาการ   มีเหตุผล  สุขุม  มีความอดกลั้นได้ดี  ยึดมั่นในคุณธรรม  ชอบอบรมสั่งสอนคน  และเป็นคนที่มีเมตตากรุณา     เมื่อดาวพฤหัสฯอยู่ในตำแหน่งที่ดีและสัมพันธ์ถึงลัคนา   จึงหมายถึงเป็นคนที่มีความคิดและสติปัญญาดี   แต่ก็มักจะเป็นคนที่ล้อมกรอบชีวิตของตนเองให้เป็นไปตามระเบียบ-ขนบประเพณี  
       
ดาวศุกร์           =    ดาวธาตุน้ำ   ใช้ดูการเงิน  ความรัก  ความสุข ความสบาย  ความใจเย็น  รักสงบ  รักสวยรักงาม  ความทันสมัย  ความรัก  ความงาม  เงินทอง  สิ่งมีค่า       ถ้าดาวศุกร์อยู่ในตำแหน่งสัมพันธ์ที่ดีกับลัคนาย่อมหมายถึงเป็นคนที่มีรูปร่างสวยงาม  มีบุคลิกดีทันสมัยร่าเริง

ดาวเสาร์          =    ดาวธาตุไฟ   ใช้ดูความทุกข์   ความเครียด   ความเหงาโดดเดี่ยว   ความเป็นคนระแวงไม่ไว้ใจใคร  เก็บซ่อนความรู้สึก  ไม่ชอบอยู่ร่วมกับหมู่คณะ  เป็นคนละเอียดรอบคอบ  มีความอดทนมาก  แต่ก็เป็นคนที่อาฆาตสูง    ดาวเสาร์ที่สัมพันธ์กับลัคนาจึงมักเป็นคนที่มีภาระมาก   ชีวิตมักเต็มไปด้วยความทุกข์   มักพบเหตุแห่งการพลัดพราก  ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว  การจะสร้างความสำเร็จก็เป็นไปโดยช้า หรือต้องใช้ความอดทนเป็นอย่างสูง  
       
ดาวราหู           =    ดาวธาตุลม   ใช้ดูความพลิ้วไหวของอารมณ์   ความอิสระ   นอกกรอบกติกา  ความไร้ระเบียบ   การเกี่ยวข้องกับอบายมุข   และความลุ่มหลง   มีไหวพริบปฏิภาณที่ดี  มีความพลิ้วไหวของอารมณ์ และขี้เบื่อ   ส่ง ผลให้เป็นคนที่ชอบในการเดินทางท่องเที่ยว  มีความลุ่มหลงมัวเมาในอบายมุข  ชอบหลบซ่อน ขาดระเบียบ  ไร้คุณธรรม  ชอบทำสิ่งผิดกฎหมายหรือผิดศีลธรรม    ดาวราหูที่สัมพันธ์ถึงลัคนาหรือตนุลัคน์  จึงมักทำให้มีบุคลิกที่ลุ่มหลงงมงายในเรื่องต่างๆได้ง่าย    และเมื่อเชื่อสิ่งใดก็จะเชื่ออย่างฝังจิตฝังใจไม่เปลี่ยนแปลง    ถ้าสัมพันธ์ดีหรือมีตำแหน่งที่ดีก็มักจะเป็นคนที่หมกมุ่นในบางเรื่องอย่างงมงาย(เช่นหนอนหนังสือ)  จะวนเวียนทำสิ่งนั้นซึ่งถือว่าเป็นการส่งผลดีเพราะทำให้เกิดความจัดเจนและมีความช่ำชอง   เป็นผู้มีเล่ห์เหลี่ยมที่ทันคนและใจกว้างใจถึง

ดาวเกตุ           =    ใช้ดูความซับซ้อน   และเป็นดาวที่ผลักดันพลังงานของดาวอื่นๆให้ส่งผลเพิ่มขึ้น   เป็นดาวที่มีสภาวะของธาตุคือ “วิญญาณธาตุ”  มีวิถีโคจรตามเข็มนาฬิกาเหมือนดาวราหู     เนื่องจากดาวเกตุไม่มีรูปไม่มีสสารจับต้องไม่ได้  ส่งผลเป็นนามธรรมมากกว่ารูปธรรมเช่นผลของการเคลื่อน ไหวที่ซับซ้อน  มีอิทธิฤทธิ์เร้นลับ     เป็นแรงกระตุ้นในด้านต่างๆทั้งดีและร้าย แรงศรัทธา ความนับถือ ความกลัว ฯลฯ       ดาวเกตุมีลักษณะเร้นลับคาดเดาความคิดไม่ได้  และเป็นความสัมพันธ์ที่เกี่ยวกับของเก่าของโบราณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วยเช่นกัน    การแสดงออกของผู้ที่มีดาวเกตุสัมพันธ์อย่างใกล้ชิด มักเป็นเรื่องที่คนภาย นอกมักเข้าใจว่ามีพฤติกรรมประหลาดหรือผิดปรกติ        ดาวเกตุมักทำให้มีพฤติกรรมแตกต่างจากธรรมดา  รวมถึงยังมีความหมายถึงความผันผวน   การเคลื่อนไหว,การเดินทาง,ความเปลี่ยนแปลง      เมื่อดาวเกตุไปสัมพันธ์กับดาวใดย่อมทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง,เกิดความผันผวน   นอกจากนี้ยังมีความหมายถึงต่างชาติต่างศาสนาอีกด้วย    เมื่อไปสัมพันธ์กับภพที่แสดงถึงการเดินทางก็จะหมายถึงการไปต่างถิ่นต่างแดน    เมื่อ สัมพันธ์กับเรื่องบุคคลก็หมายถึงต่างเชื้อชาติ   เมื่อสัมพันธ์กับลัคนาก็จะหมายถึงมีความสามารถพิเศษทาง ด้านสิ่งเร้นลับ เช่นโหราศาสตร์ การเข้าทรง ไสยศาสตร์ หรือวิชาที่เกี่ยวกับสิ่งที่เหนือธรรมชาติต่างๆ     ผู้ที่มีดาวเกตุสัมพันธ์กับตนุลัคน์หรือลัคนา     จะทำให้มีพฤติกรรมที่ไม่เป็นธรรมชาติหรือวิตถาร เช่นพวกกระเทยหรือพวกรักร่วมเพศ    ดาวเกตุเป็นสัญลักษณ์ของความล้นหรือความเกินพอดี-เกินปกติ-ความแปลก รวมถึงบรรยากาศแตกต่าง     เป็นดาวแห่งความคิดริเริ่มการดัดแปลงที่ทันสมัย  ชอบเด่นและแหวกแนว   แต่ก็เป็นดาวแห่งการละทิ้งการกระทำกลางคันอีกด้วย

ดาวมฤตยู        =    ใช้ดูเกี่ยวกับความลึกลับ  หลบซ่อน   เป็นดาวที่กดดันพลังงานของดาวให้เกิดความตึงเครียดเพิ่มขึ้น   เป็นดาวที่มีธาตุในรูปแบบ “สุญญากาศ” คือความว่างเปล่า   จึงเป็นสัญลักษณ์ของความไม่ครบถ้วนหรือหมดไป  ความกะทันหัน   ความหงุดหงิด โกรธง่าย  เภทภัย  ลี้ลับซับซ่อน  และยังเป็นดาวที่ส่งสภาวะในด้านความแปรปรวน ส่งผลถึงความกดดัน  ความตึงเครียด  ความรุนแรงแบบเฉียบพลัน  ความลึกลับ  การพลัดพราก  การสูญเสีย    ดวงชะตาที่มีลัคนาสัมพันธ์กับดาวมฤตยูจึงมักมีเหตุร้าย  มีความสูญเสีย  มีโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน      มีเหตุให้ต้องผ่าตัดและมักพบกับเหตุร้ายอยู่เสมอ   มักอาภัพต้องเหนื่อยยากตรากตรำลำบาก มีชีวิตที่ต้องคอยรับใช้ผู้อื่น  ชีวิตส่วนตัวมักลุ่มๆดอนๆ   บางครั้งรุ่งโรจน์บางครั้งตกต่ำไม่คงทน  ปฏิภาณไหวพริบจะแก่กว่าอายุจริง  ชอบคบหาคนที่อายุมากกว่าตน   มีญาณวิเศษมีลางสังหรณ์และพลังจิตสูง   มักเป็นคนเคร่งขรึม  ชอบเก็บตัวซ่อนคม  มีความคิดลึกซึ้ง  ไม่ชอบความพลุกพล่านวุ่นวาย  เป็นคนช่างติ  มีนิสัยละเอียดถี่ถ้วน     จะมีญาณวิเศษที่ทำให้สามารถล่วงรู้ปัญหาของผู้อื่นได้ดีทีเดียว  อ่านจิตใจคนเก่ง  ทำนายเหตุการณ์ได้ถูกต้อง  เจ้าอารมณ์ขี้หงุดหงิด  โกรธง่าย  ชอบเป็นผู้นำ เป็นผู้ริเริ่มก่อการปฏิวัติ   เป็นผู้คิดค้นทั้งในแนวทางก้าวหน้าหรือแนวทางลึกลับ ชอบประดิษฐ์ ช่างติ เอาแต่ใจตัวเอง มีความ สามารถพิเศษไม่เหมือนใคร    แต่ถ้าตนุลัคน์ไม่แข็งแรงก็มักมีชีวิตที่ไม่ยืนยาว     ดาวมฤตยูนี้ถ้าสัมพันธ์กับดาวใดก็ย่อมจะทำให้เกิดความลึกลับไม่เปิดเผยในเรื่องที่เป็นความหมายของดาวนั้น

หลักการพิจารณาทั้ง 12 ราศี


             ดวงชะตาในหลักวิชาของโหราศาสตร์ไทยนั้นแบ่งออกเป็น 12 ราศี   แต่ละราศีใน 12 ราศีก็จะให้ผลต่อดวงดาวที่แตกต่างกันไป   ซึ่งเราต้องพิจารณาว่าเป็นผลจากราศีใดกระทำกับดาวใด    เพราะแต่ละราศีก็จะมีธาตุประจำของตนเองและดวงดาวแต่ละดวงก็จะมีธาตุของตนเองด้วยเช่นกัน ธาตุในระบบโหราศาสตร์ไทยมีทั้งหมด 4 ธาตุ ดังนี้
ธาตุไฟ   ให้คุณด้านกระตือรือร้น กระฉับกระเฉง      ส่วนด้านโทษก็เป็นความเร่งเร้า รุ่มร้อน ความหงุดหงิด  ไม่มีความสุข
ธาตุลม   ให้คุณด้านการเร่งเร้า,ว่องไว,รวดเร็ว          ส่วนด้านโทษก็เป็นความลุกลน  ฉาบฉวย   ไม่แน่นอน  ไม่ยั่งยืน
ธาตุดิน   ให้คุณด้านความมั่นคง มีความถี่ถ้วนรอบคอบ เด่นด้านการสะสม     ส่วนด้านโทษก็เป็นความช้าเฉื่อยชา  หลงยึดติด
ธาตุน้ำ   ให้คุณด้านความสุขความร่มเย็นแก่จิตใจ    ส่วนด้านโทษก็เป็นความโลเล  ไม่แน่นอน  เรรวน  ไม่มั่นคง

           เมื่อนำทั้ง 4 ธาตุมาจัดแบ่งให้ครบถ้วนใน 12 ราศี      ก็แบ่งจะได้ 3 กลุ่มใหญ่ๆคือ  กลุ่มราศีต้นธาตุ  ราศีกลางธาตุ  และราศีปลายธาตุ    ผลของธาตุที่แยกตามกลุ่มก็จะส่งผลกระทบต่อดาวที่แตกต่างกันไปอีกคือ      ราศีต้นธาตุก็จะให้ผลที่รุนแรงและชัดเจนต่อดาวมากที่สุด     ราศีกลางธาตุก็จะให้ผลที่เบาบางลงไป     ส่วนราศีปลายธาตุก็จะให้ผลที่เบาบางที่สุดหรือให้ผลที่ไม่ชัดเจนนัก

ราศีธาตุไฟ    มี 3 ราศีคือ         ราศีเมษ    = ราศีไฟต้นธาตุ       ราศีสิงห์    =  ราศีไฟกลางธาตุ                
                                              ราศีธนู     = ราศีไฟปลายธาตุ
ราศีธาตุลม    มี 3 ราศีคือ        ราศีตุลย์   = ราศีลมต้นธาตุ         ราศีกุมภ์    =  ราศีลมกลางธาตุ           
                                              ราศีมิถุน  = ราศีลมปลายธาตุ
ราศีธาตุดิน    มี 3 ราศีคือ        ราศีมังกร  = ราศีดินต้นธาตุ         ราศีพฤษภ =  ราศีดินกลางธาตุ
                                              ราศีกันย์   = ราศีดินปลายธาตุ
ราศีธาตุน้ำ    มี 3 ราศีคือ         ราศีกรกฎ = ราศีน้ำต้นธาตุ          ราศีพิจิก   =  ราศีน้ำกลางธาตุ 
                                              ราศีมีน     = ราศีน้ำปลายธาตุ




          ความหมายของแต่ละราศีเพื่อนำไปพิจารณาในการอ่านพื้นดวง

ราศีเมษ   มีความหมายโดยนำลักษณะนิสัยของดาวอังคารผสมกับธาตุไฟต้น ธาตุของราศีนี้      
         เมื่อมีดาวมาสถิตก็จะส่งผลให้ดาวนั้นๆมีความหมายเพิ่มเติมดังนี้คือ   ว่องไวรวดเร็วแบบฉับพลัน  มีความคิดริเริ่ม  กล้าได้กล้าเสีย  มีความทะเยอทะยาน เปิดเผยจริง ใจ  คิดเร็วทำเร็ว  โกรธง่ายหายเร็ว  เอาแต่ใจตัวเป็นใหญ่  ชอบหักหาญ  หุนหันพลันแล่น  ดื้อดึง  อารมณ์ก้าวร้าวรุนแรง    จะเอาอะไรต้องได้ในทันที   เป็นนักสู้ที่คิดแต่ผลชนะ  ขาดคุณสมบัติการเป็นผู้ตามจึงไม่ค่อยยอมรับฟังใคร   ไม่ทบทวนในสิ่งที่ได้กระทำลงไป

ราศีพฤษภ   มีความหมายโดยนำลักษณะนิสัยของดาวศุกร์ผสมกับธาตุดินกลางธาตุของราศีนี้
         เมื่อมีดาวมาสถิตก็จะส่งผลให้ดาวนั้นๆมีความหมายเพิ่มเติมดังนี้คือ    ชอบความสวยงาม,สะดวกสบาย  ชอบสะสม   เป็นผู้ที่มีความมั่นคง  มีความนึกคิดรอบคอบ   มีความอดทน   เก็บออมเก่ง   มีความอดกลั้นและรอคอยได้ดี   ไม่เหลวไหล  ไม่ฟุ้งเฟ้อ  เป็นนักวางแผน    ดื้อ,ไม่ยอมฟังเหตุผลของใคร    ไม่ค่อยปรับปรุงตนเอง   ขี้เกียจและหวงของ   

ราศีเมถุน    มีความหมายโดยการนำลักษณะนิสัยของดาวพุธมาผสมกับธาตุลมปลายธาตุของราศีนี้
         เมื่อมีดาวมาสถิตก็จะส่งผลให้ดาวนั้นๆมีความหมายเพิ่มเติมดังนี้คือ  มีความรู้รอบตัวที่ดี   เข้าใจเรื่องราวต่างๆได้รวดเร็ว     มีไหวพริบปฏิภาณว่องไว    แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้เก่ง   ทำให้สามารถปรับปรุงตัวให้เข้ากับบุคคลและสิ่งแวดล้อมได้ดี      เป็นผู้ที่มองโลกในแง่ดี   วาจามีเสน่ห์เป็นมิตรกับทุกคน   คารมดี   และชอบต่อปากต่อคำ   ไม่ชอบทำอะไรที่ยืดเยื้อและจำเจ  เปลี่ยนใจเร็วแต่ไม่ใช่โลเล  ไม่ยึดมั่นอะไรจริงจังจนดูเป็นคนขาดความจริงใจ 

ราศีกรกฎ    มีความหมายโดยการนำลักษณะนิสัยของดาวจันทร์มาผสมกับธาตุน้ำต้นธาตุของราศีนี้
         เมื่อมีดาวมาสถิตก็จะส่งผลให้ดาวนั้นๆมีความหมายเพิ่มเติมดังนี้คือ   มีความอ่อนโยนมีความเห็นอกเห็นใจและห่วงใยคนอื่น   มีความเอาใจใส่ในทุกๆเรื่อง  รักครอบ ครัว    มีจิตใจละเอียดอ่อนจึงรับรู้ความรู้สึกของผู้อื่นได้ง่าย   ชอบที่จะดูแลปรนนิบัติคนที่ตนเองรัก  รักในงานด้านบริการ  อ่อนไหวหูเบาใจน้อย   มีนิสัยหยุมหยิมชอบสอดรู้สอดเห็นเรื่องของคนอื่น   ขี้อิจฉาในแบบขี้น้อยใจ   อารมณ์แปรปรวนจนตามไม่ทัน      

ราศีสิงห์    มีความหมายโดยการนำลักษณะนิสัยของดาวอาทิตย์มาผสมกับธาตุไฟกลางธาตุของราศีนี้
         เมื่อมีดาวมาสถิตก็จะส่งผลให้ดาวนั้นๆมีความหมายเพิ่มเติมดังนี้คือ    ชอบการเป็นหัวหน้า-ผู้นำ  รักเกียรติ    ใจกว้างและกล้ารับผิดชอบ   มักคิดการใหญ่เสมอ    ชอบเป็นที่หนึ่ง  ต้องการคำชมและการยอมรับจากคนรอบข้าง  มีความจงรักภักดี   โกรธง่ายหายเร็วและให้อภัยได้ง่ายดายเช่นกัน   อีโก้แรงหัวสูง  ยะโสถือตัว   ชอบเบ่งและข่มคน  ใจกว้างและปฏิเสธไม่เป็น   กระทำตัวเกินฐานะทั้งที่ไม่มีความจำเป็น    ไม่ยอมตกต่ำล้มเหลว   ชอบทำเอาหน้าโดยไม่สนถึงการสูญเสียเงินทองทรัพย์สินของตนเอง  

ราศีกันย์      มีความหมายโดยการนำลักษณะนิสัยของดาวพุธมาผสมกับธาตุดินปลายธาตุของราศีนี้
         เมื่อมีดาวมาสถิตก็จะส่งผลให้ดาวนั้นๆมีความหมายเพิ่มเติมดังนี้คือ    มีความรอบคอบ  มีวิจารณญาณลึกซึ้งเข้าถึงเหตุผล   เหมาะสมกับการเป็นนักวิเคราะห์,นักวิจัย    สะสมความคิดและนำมาใช้ประโยชน์ได้จริง   เป็นคนพิถีพิถัน   ชอบตำหนิติเตียนและวิพากษ์วิจารณ์ทั้งกับคนอื่นและตนเอง   ชอบสอดแทรกในเรื่องของคนอื่น   ละเอียดถี่ถ้วนเกินไปจนเกิดความลังเลวิตกกังวลและเชื่องช้าในการตัดสินใจ   มักเกิดปัญหาเพราะเก็บสะสมความคิดแม้จะเป็นในทางด้านลบ

ราศีตุลย์     มีความหมายโดยการนำลักษณะนิสัยของดาวศุกร์มาผสมกับธาตุลมต้นธาตุของราศีนี้ 
         เมื่อมีดาวมาสถิตก็จะส่งผลให้ดาวนั้นๆมีความหมายเพิ่มเติมดังนี้คือ     ชอบความสวยงามแบบทันสมัยมีรสนิยม   อารมณ์ดีน่ารักมีเสน่ห์   สนุกสนานร่าเริง   ไม่ชอบการขัดแย้ง   โลเลไม่ค่อยตัดสินใจ  มักตกเป็นทาสของสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ฟุ้งเฟ้อสนุกสนาน   ไม่ค่อยมีความทะยานอยากในการพุ่งไปข้างหน้าชอบที่จะทำไปตามสิ่งที่ตนเองมีความสุขหรือสบายที่สุด    

ราศีพิจิก     มีความหมายโดยการนำลักษณะนิสัยของดาวอังคารมาผสมกับธาตุน้ำกลางธาตุของราศีนี้
         เมื่อมีดาวมาสถิตก็จะส่งผลให้ดาวนั้นๆมีความหมายเพิ่มเติมดังนี้คือ    ยังคงมีความกล้าและมีความขยันอยู่พอสมควร(ไม่จริงจังและไม่รวดเร็วเท่าราศีเมษ)    รู้จักจังหวะจะโคนในการดำเนินชีวิตทำสิ่งใดก็จะไม่ทุ่มจนสุดตัวเกินไปและกระทำแบบเรื่อยๆสบายๆค่อยเป็นค่อยไป    รู้จักแก้ปัญหาหรืออุปสรรคด้วยการพินิจพิจารณาอย่างถ้วนถี่ไม่ใจร้อนวู่วาม     มีน้ำใจในการช่วยเหลือผู้อื่นเมื่อได้รับการร้องขอ   อาจดูรักสบายไม่ค่อยมีความจริงจังกับภาระหน้าที่     อารมณ์แปรปรวนไม่มั่นคง   ถ้าขยันก็จะเป็นพักๆขึ้นอยู่กับอารมณ์ของตนเองในขณะนั้น  และขาดความตั้งใจที่แน่วแน่

ราศีธนู    มีความหมายโดยการนำลักษณะนิสัยของดาวพฤหัสมาผสมกับธาตุไฟปลายธาตุของราศีนี้
         เมื่อมีดาวมาสถิตก็จะส่งผลให้ดาวนั้นๆมีความหมายเพิ่มเติมดังนี้คือ    มีสติปัญญาที่ดีเรียนรู้ได้รวดเร็ว     มักใฝ่หาการเรียนรู้    เคร่งครัดในกฎกติกาและยึดถือขนบธรรมเนียมประเพณีอย่างจริงใจ   กตัญญูสูง  ชอบดูหมิ่นความรู้ของผู้อื่น    ยึดมั่นในความคิดความเชื่อของตนเอง   และจะขัดแย้งกับความเชื่อของผู้อื่นที่ไม่เห็นตรงกับตนเอง     ด้วยนิสัยที่ตรงๆขวานผ่าซากซึ่งอาจทำร้ายจิตใจผู้อื่นได้ประจำ   ไม่ค่อยละเอียดอ่อนกับความรู้สึกคนอื่น   

ราศีมังกร    มีความหมายโดยการนำลักษณะนิสัยของดาวเสาร์มาผสมกับธาตุดินต้นธาตุของราศีนี้
         เมื่อมีดาวมาสถิตก็จะส่งผลให้ดาวนั้นๆมีความหมายเพิ่มเติมดังนี้คือ    มีความเสมอต้นเสมอปลาย  เป็นคนที่เชื่อถือได้  มีความอดทนต่อความยากลำบากได้ดี    มีความมั่นคงต่อจุดมุ่งหมายหรือสิ่งที่ได้รับมอบหมาย    มีความรับผิดชอบสูงมีเหตุผลและมีหลักการที่ดี  พูดจริงทำจริง  รับผิดชอบครอบครัวได้ดี  เป็นคนขี้ระแวง มีความระมัดระวังที่มากเกินไป  มีความเห็นแก่ตัว  ยึดติดในอำนาจและทรัพย์สิน  เป็นคนเจ้าทุกข์เจ้าคิดเจ้าแค้นยิ่งกว่าราศีกันย์   และเก็บเรื่องไม่เป็นเรื่องมาคิดสะสมจนกลายเป็นความเครียด   อาจไม่สมหวังในสิ่งที่ปรารถนาเพราะคิดมากและเคร่งเครียดจริงจัง

ราศีกุมภ์     มีความหมายโดยการนำลักษณะนิสัยของดาวราหูมาผสมกับธาตุลมกลางธาตุของราศีนี้
เมื่อมีดาวมาสถิตก็จะส่งผลให้ดาวนั้นๆมีความหมายเพิ่มเติมดังนี้คือ    ชอบปฏิบัติและพัฒนาให้เกิดสิ่งแปลกใหม่  ชอบคิดปรับปรุง  มีความฉับไวและมีวิธีที่แปลกแตกต่างในการแก้ไขปัญหาต่างๆ   ชอบการคิดค้นนอกกรอบ  มีใจรักอิสรเสรีจึงไม่ยึดติดกับกรอบหรือไม่ยึดประเพณีมาเป็นสิ่งขวางกั้นชีวิตและจินตนาการ  ชอบเพ้อฝันเลื่อนลอยไร้สาระ  ชอบคิดในสิ่งที่ทำจริงๆไม่ได้  ชอบสร้างวิมานในอากาศและมักทำอะไรด้วยความประมาทแบบเล็งผลประโยชน์โดยไม่คิดทบทวนไตร่ตรอง   มักมีนิสัยเย็นชาห่างเหิน  ไม่มีความละเอียดอ่อนกับความรู้สึกใครๆ     คิดไวจนคนอื่นตามไม่ทัน  ง่ายต่อการเข้าใกล้อบายมุขทุกชนิด  ไม่เคารพกฎกติกาและไม่เชื่อถือขนบธรรมเนียมประเพณี   ขวางโลกและก้าวร้าว

ราศีมีน     มีความหมายโดยการนำลักษณะนิสัยของดาวพฤหัสมาผสมกับธาตุน้ำปลายธาตุของราศีนี้        

         เมื่อมีดาวมาสถิตก็จะส่งผลให้ดาวนั้นๆมีความหมายเพิ่มเติมดังนี้คือ    นิสัยอ่อนโยนผ่อนปรน  มีความเกรงใจผู้อื่นอยู่เสมอ  และเป็นผู้ที่มีความเสียสละ  มีความละเอียดอ่อนต่อความรู้สึกของผู้อื่น   มีความสุขตามอัตภาพ  ไม่ค่อยสร้างความเดือดร้อนให้แก่ตนเอง   ขาดความเข้มแข็งเด็ดขาด   ขาดความกล้าในการตัดสินใจจนกลายเป็นคนที่มีความขี้ขลาดและอ่อนแอ    มักใจอ่อนจนไม่กล้าสู้ปัญหา    เป็นราศีที่ส่งผลให้เกิดการสละทางโลกโดยการบวชก็ได้

ดาวคู่ศัตรูและดาวคู่มิตร   http://thanan4astro.blogspot.com/2015/02/blog-post_20.html
ดวงตัวอย่างที่ 1   http://thanan4astro.blogspot.com/2015/02/1_18.html
ดวงตัวอย่างที่ 2   http://thanan4astro.blogspot.com/2015/02/2.html
ดวงตัวอย่างที่ 3   http://thanan4astro.blogspot.com/2015/02/3.html

1 ความคิดเห็น:

  1. ได้รับความรู้มีประโยชน์ค่ะ ขอบคุณค่ะ

    ตอบลบ