บทความสอนวิธีการอ่านพื้นดวงในระบบธาตุ ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับระบบอื่นได้อย่างดี เพราะระบบธาตุจะเป็นระบบที่เป็นกลางมากที่สุด ในบทความนี้จะสอนขั้นตอนพื้นฐานที่สำคัญในการอ่านพื้นดวง สอนการอ่านทุกมุมสัมพันธ์อย่างละเอียด และขอเชิญทุกท่านที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการอ่านพื้นดวงก็ส่งคำถามเข้ามาได้นะครับ
ความหมายดาวโดยสังเขป เพื่อใช้เป็นหลักในการพิจารณาในพื้นดวง
ดาวอาทิตย์ = เป็นดาวธาตุไฟ ใช้ดูเรื่องตำแหน่ง ชื่อเสียง
ยศศักดิ์ เป้าหมาย ความทะเยอ ทะยาน การวางตัว
มีความเป็นผู้นำ หยิ่งยโส รักอิสระ เป็นตัวของตัวเอง และมักเป็นคนเอาแต่ใจตนเอง ชอบใช้อำนาจ รักเกียรติรักศักดิ์ศรี ไม่ชอบอยู่ภายใต้อำนาจใคร ฯลฯ
ดาวจันทร์ = เป็นดาวธาตุดิน ใช้ดูอารมณ์ ความอ่อนไหว
ความเอื้อเฟื้อ
การดูแลเอาใจใส่ จินตนาการ อ่อนหวานนุ่มนวล มีแง่งอน ใจอ่อน ช่างสงสาร
ชอบคิดชอบฝัน เชื่อคนง่าย และจิตใจอ่อนไหวได้ง่ายไม่หนักแน่น เปลี่ยนใจง่าย
การดูแลเอาใจใส่ การบริการ (หมายถึงสตรีอีกด้วย)
ดาวอังคาร = ดาวธาตุลม ใช้ดูความขยัน การงาน
อุบัติเหตุ การเจ็บป่วยฉับพลัน การผ่าตัด
ความขัดแย้ง
การใช้กำลังตอบโต้ที่รุนแรง แต่ถ้าดาวอังคารอยู่ในตำแหน่งที่ดีจะส่งผลในด้านความมุมานะความขยันขันแข็งไม่ย่อท้อ
และยังหมายถึงมีความสามารถในการทำงานทางด้านการใช้ฝีมืออีกด้วย
คนที่ดาวอังคารเด่นมักมีความสามารถเชิงช่างเกือบทุกประเภท
ดาวพุธ = ดาวธาตุน้ำ ใช้ดูสภาพการเข้าสังคม กลุ่มเพื่อน
การติดต่อ การพูดจา ความคิด การเจรจา ช่างสังเกตพินิจพิจารณา
สามารถปรับตัวได้ มนุษย์สัมพันธ์ดี เด่นด้านการเป็นตัวแทนหรือนายหน้า ดาว พุธที่เสื่อมจะทำให้เป็นคนที่ไม่มีความคิดสร้างสรรค์ไม่มีแผนการ ในการทำสิ่งใดจะขาดปฏิภาณ และการเจรจาไม่เป็นที่ชื่นชอบต่อคนรอบข้าง แต่ถ้าดาวพุธเด่นก็จะหมายถึงเป็นผู้ที่มีความคิดดี
มีแผนการที่ดี การเจรจาเป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วไป
มีปฏิภาณในการเรียนรู้ในเรื่องต่างๆได้ง่าย แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี
ดาวพฤหัส = ดาวธาตุดิน
ใช้ดูความคิด ผู้ใหญ่(ที่บ้าน-ที่ทำงาน) ครู-อาจารย์
การศึกษา กฎระเบียบประเพณี อุดมการณ์
ครูบาอาจารย์ นักวิชาการ มีเหตุผล สุขุม
มีความอดกลั้นได้ดี ยึดมั่นในคุณธรรม ชอบอบรมสั่งสอนคน และเป็นคนที่มีเมตตากรุณา เมื่อดาวพฤหัสฯอยู่ในตำแหน่งที่ดีและสัมพันธ์ถึงลัคนา จึงหมายถึงเป็นคนที่มีความคิดและสติปัญญาดี แต่ก็มักจะเป็นคนที่ล้อมกรอบชีวิตของตนเองให้เป็นไปตามระเบียบ-ขนบประเพณี
ดาวศุกร์ = ดาวธาตุน้ำ
ใช้ดูการเงิน ความรัก ความสุข ความสบาย ความใจเย็น รักสงบ รักสวยรักงาม ความทันสมัย ความรัก ความงาม เงินทอง สิ่งมีค่า
ถ้าดาวศุกร์อยู่ในตำแหน่งสัมพันธ์ที่ดีกับลัคนาย่อมหมายถึงเป็นคนที่มีรูปร่างสวยงาม
มีบุคลิกดีทันสมัยร่าเริง
ดาวเสาร์ = ดาวธาตุไฟ
ใช้ดูความทุกข์ ความเครียด ความเหงาโดดเดี่ยว ความเป็นคนระแวงไม่ไว้ใจใคร เก็บซ่อนความรู้สึก
ไม่ชอบอยู่ร่วมกับหมู่คณะ เป็นคนละเอียดรอบคอบ มีความอดทนมาก แต่ก็เป็นคนที่อาฆาตสูง ดาวเสาร์ที่สัมพันธ์กับลัคนาจึงมักเป็นคนที่มีภาระมาก ชีวิตมักเต็มไปด้วยความทุกข์
มักพบเหตุแห่งการพลัดพราก
ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว การจะสร้างความสำเร็จก็เป็นไปโดยช้า หรือต้องใช้ความอดทนเป็นอย่างสูง
ดาวราหู = ดาวธาตุลม
ใช้ดูความพลิ้วไหวของอารมณ์ ความอิสระ นอกกรอบกติกา
ความไร้ระเบียบ การเกี่ยวข้องกับอบายมุข และความลุ่มหลง มีไหวพริบปฏิภาณที่ดี
มีความพลิ้วไหวของอารมณ์ และขี้เบื่อ ส่ง ผลให้เป็นคนที่ชอบในการเดินทางท่องเที่ยว มีความลุ่มหลงมัวเมาในอบายมุข ชอบหลบซ่อน ขาดระเบียบ ไร้คุณธรรม ชอบทำสิ่งผิดกฎหมายหรือผิดศีลธรรม ดาวราหูที่สัมพันธ์ถึงลัคนาหรือตนุลัคน์ จึงมักทำให้มีบุคลิกที่ลุ่มหลงงมงายในเรื่องต่างๆได้ง่าย
และเมื่อเชื่อสิ่งใดก็จะเชื่ออย่างฝังจิตฝังใจไม่เปลี่ยนแปลง
ถ้าสัมพันธ์ดีหรือมีตำแหน่งที่ดีก็มักจะเป็นคนที่หมกมุ่นในบางเรื่องอย่างงมงาย(เช่นหนอนหนังสือ)
จะวนเวียนทำสิ่งนั้นซึ่งถือว่าเป็นการส่งผลดีเพราะทำให้เกิดความจัดเจนและมีความช่ำชอง
เป็นผู้มีเล่ห์เหลี่ยมที่ทันคนและใจกว้างใจถึง
ดาวเกตุ = ใช้ดูความซับซ้อน
และเป็นดาวที่ผลักดันพลังงานของดาวอื่นๆให้ส่งผลเพิ่มขึ้น เป็นดาวที่มีสภาวะของธาตุคือ
“วิญญาณธาตุ”
มีวิถีโคจรตามเข็มนาฬิกาเหมือนดาวราหู เนื่องจากดาวเกตุไม่มีรูปไม่มีสสารจับต้องไม่ได้ ส่งผลเป็นนามธรรมมากกว่ารูปธรรมเช่นผลของการเคลื่อน
ไหวที่ซับซ้อน มีอิทธิฤทธิ์เร้นลับ เป็นแรงกระตุ้นในด้านต่างๆทั้งดีและร้าย
แรงศรัทธา ความนับถือ ความกลัว ฯลฯ ดาวเกตุมีลักษณะเร้นลับคาดเดาความคิดไม่ได้ และเป็นความสัมพันธ์ที่เกี่ยวกับของเก่าของโบราณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วยเช่นกัน การแสดงออกของผู้ที่มีดาวเกตุสัมพันธ์อย่างใกล้ชิด
มักเป็นเรื่องที่คนภาย นอกมักเข้าใจว่ามีพฤติกรรมประหลาดหรือผิดปรกติ ดาวเกตุมักทำให้มีพฤติกรรมแตกต่างจากธรรมดา
รวมถึงยังมีความหมายถึงความผันผวน การเคลื่อนไหว,การเดินทาง,ความเปลี่ยนแปลง เมื่อดาวเกตุไปสัมพันธ์กับดาวใดย่อมทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง,เกิดความผันผวน นอกจากนี้ยังมีความหมายถึงต่างชาติต่างศาสนาอีกด้วย เมื่อไปสัมพันธ์กับภพที่แสดงถึงการเดินทางก็จะหมายถึงการไปต่างถิ่นต่างแดน
เมื่อ
สัมพันธ์กับเรื่องบุคคลก็หมายถึงต่างเชื้อชาติ
เมื่อสัมพันธ์กับลัคนาก็จะหมายถึงมีความสามารถพิเศษทาง
ด้านสิ่งเร้นลับ เช่นโหราศาสตร์ การเข้าทรง ไสยศาสตร์ หรือวิชาที่เกี่ยวกับสิ่งที่เหนือธรรมชาติต่างๆ ผู้ที่มีดาวเกตุสัมพันธ์กับตนุลัคน์หรือลัคนา จะทำให้มีพฤติกรรมที่ไม่เป็นธรรมชาติหรือวิตถาร
เช่นพวกกระเทยหรือพวกรักร่วมเพศ ดาวเกตุเป็นสัญลักษณ์ของความล้นหรือความเกินพอดี-เกินปกติ-ความแปลก
รวมถึงบรรยากาศแตกต่าง เป็นดาวแห่งความคิดริเริ่มการดัดแปลงที่ทันสมัย
ชอบเด่นและแหวกแนว แต่ก็เป็นดาวแห่งการละทิ้งการกระทำกลางคันอีกด้วย
ดาวมฤตยู = ใช้ดูเกี่ยวกับความลึกลับ หลบซ่อน
เป็นดาวที่กดดันพลังงานของดาวให้เกิดความตึงเครียดเพิ่มขึ้น เป็นดาวที่มีธาตุในรูปแบบ “สุญญากาศ”
คือความว่างเปล่า จึงเป็นสัญลักษณ์ของความไม่ครบถ้วนหรือหมดไป ความกะทันหัน ความหงุดหงิด
โกรธง่าย เภทภัย ลี้ลับซับซ่อน และยังเป็นดาวที่ส่งสภาวะในด้านความแปรปรวน
ส่งผลถึงความกดดัน ความตึงเครียด ความรุนแรงแบบเฉียบพลัน ความลึกลับ การพลัดพราก การสูญเสีย
ดวงชะตาที่มีลัคนาสัมพันธ์กับดาวมฤตยูจึงมักมีเหตุร้าย
มีความสูญเสีย มีโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน มีเหตุให้ต้องผ่าตัดและมักพบกับเหตุร้ายอยู่เสมอ มักอาภัพต้องเหนื่อยยากตรากตรำลำบาก มีชีวิตที่ต้องคอยรับใช้ผู้อื่น
ชีวิตส่วนตัวมักลุ่มๆดอนๆ บางครั้งรุ่งโรจน์บางครั้งตกต่ำไม่คงทน ปฏิภาณไหวพริบจะแก่กว่าอายุจริง ชอบคบหาคนที่อายุมากกว่าตน มีญาณวิเศษมีลางสังหรณ์และพลังจิตสูง มักเป็นคนเคร่งขรึม ชอบเก็บตัวซ่อนคม มีความคิดลึกซึ้ง ไม่ชอบความพลุกพล่านวุ่นวาย เป็นคนช่างติ มีนิสัยละเอียดถี่ถ้วน จะมีญาณวิเศษที่ทำให้สามารถล่วงรู้ปัญหาของผู้อื่นได้ดีทีเดียว
อ่านจิตใจคนเก่ง ทำนายเหตุการณ์ได้ถูกต้อง เจ้าอารมณ์ขี้หงุดหงิด โกรธง่าย ชอบเป็นผู้นำ เป็นผู้ริเริ่มก่อการปฏิวัติ เป็นผู้คิดค้นทั้งในแนวทางก้าวหน้าหรือแนวทางลึกลับ
ชอบประดิษฐ์ ช่างติ เอาแต่ใจตัวเอง มีความ สามารถพิเศษไม่เหมือนใคร แต่ถ้าตนุลัคน์ไม่แข็งแรงก็มักมีชีวิตที่ไม่ยืนยาว
ดาวมฤตยูนี้ถ้าสัมพันธ์กับดาวใดก็ย่อมจะทำให้เกิดความลึกลับไม่เปิดเผยในเรื่องที่เป็นความหมายของดาวนั้น
หลักการพิจารณาทั้ง 12 ราศี
ดวงชะตาในหลักวิชาของโหราศาสตร์ไทยนั้นแบ่งออกเป็น
12 ราศี แต่ละราศีใน 12 ราศีก็จะให้ผลต่อดวงดาวที่แตกต่างกันไป
ซึ่งเราต้องพิจารณาว่าเป็นผลจากราศีใดกระทำกับดาวใด
เพราะแต่ละราศีก็จะมีธาตุประจำของตนเองและดวงดาวแต่ละดวงก็จะมีธาตุของตนเองด้วยเช่นกัน
ธาตุในระบบโหราศาสตร์ไทยมีทั้งหมด 4 ธาตุ ดังนี้
ธาตุไฟ ให้คุณด้านกระตือรือร้น กระฉับกระเฉง ส่วนด้านโทษก็เป็นความเร่งเร้า รุ่มร้อน
ความหงุดหงิด ไม่มีความสุข
ธาตุลม ให้คุณด้านการเร่งเร้า,ว่องไว,รวดเร็ว ส่วนด้านโทษก็เป็นความลุกลน ฉาบฉวย
ไม่แน่นอน ไม่ยั่งยืน
ธาตุดิน ให้คุณด้านความมั่นคง มีความถี่ถ้วนรอบคอบ
เด่นด้านการสะสม
ส่วนด้านโทษก็เป็นความช้าเฉื่อยชา
หลงยึดติด
ธาตุน้ำ ให้คุณด้านความสุขความร่มเย็นแก่จิตใจ ส่วนด้านโทษก็เป็นความโลเล ไม่แน่นอน
เรรวน ไม่มั่นคง
เมื่อนำทั้ง 4 ธาตุมาจัดแบ่งให้ครบถ้วนใน 12 ราศี ก็แบ่งจะได้ 3
กลุ่มใหญ่ๆคือ กลุ่มราศีต้นธาตุ ราศีกลางธาตุ
และราศีปลายธาตุ
ผลของธาตุที่แยกตามกลุ่มก็จะส่งผลกระทบต่อดาวที่แตกต่างกันไปอีกคือ
ราศีต้นธาตุก็จะให้ผลที่รุนแรงและชัดเจนต่อดาวมากที่สุด ราศีกลางธาตุก็จะให้ผลที่เบาบางลงไป
ส่วนราศีปลายธาตุก็จะให้ผลที่เบาบางที่สุดหรือให้ผลที่ไม่ชัดเจนนัก
ราศีธาตุไฟ มี 3
ราศีคือ ราศีเมษ = ราศีไฟต้นธาตุ ราศีสิงห์ = ราศีไฟกลางธาตุ
ราศีธนู
= ราศีไฟปลายธาตุ
ราศีธาตุลม มี 3
ราศีคือ ราศีตุลย์ = ราศีลมต้นธาตุ ราศีกุมภ์ = ราศีลมกลางธาตุ
ราศีมิถุน = ราศีลมปลายธาตุ
ราศีธาตุดิน มี 3
ราศีคือ ราศีมังกร = ราศีดินต้นธาตุ ราศีพฤษภ = ราศีดินกลางธาตุ
ราศีกันย์
= ราศีดินปลายธาตุ
ราศีธาตุน้ำ มี 3
ราศีคือ ราศีกรกฎ = ราศีน้ำต้นธาตุ ราศีพิจิก = ราศีน้ำกลางธาตุ
ราศีมีน = ราศีน้ำปลายธาตุ
ความหมายของแต่ละราศีเพื่อนำไปพิจารณาในการอ่านพื้นดวง
ราศีเมษ มีความหมายโดยนำลักษณะนิสัยของดาวอังคารผสมกับธาตุไฟต้น ธาตุของราศีนี้
เมื่อมีดาวมาสถิตก็จะส่งผลให้ดาวนั้นๆมีความหมายเพิ่มเติมดังนี้คือ ว่องไวรวดเร็วแบบฉับพลัน มีความคิดริเริ่ม กล้าได้กล้าเสีย มีความทะเยอทะยาน เปิดเผยจริง ใจ คิดเร็วทำเร็ว
โกรธง่ายหายเร็ว เอาแต่ใจตัวเป็นใหญ่ ชอบหักหาญ
หุนหันพลันแล่น ดื้อดึง อารมณ์ก้าวร้าวรุนแรง จะเอาอะไรต้องได้ในทันที เป็นนักสู้ที่คิดแต่ผลชนะ ขาดคุณสมบัติการเป็นผู้ตามจึงไม่ค่อยยอมรับฟังใคร ไม่ทบทวนในสิ่งที่ได้กระทำลงไป
ราศีพฤษภ มีความหมายโดยนำลักษณะนิสัยของดาวศุกร์ผสมกับธาตุดินกลางธาตุของราศีนี้
เมื่อมีดาวมาสถิตก็จะส่งผลให้ดาวนั้นๆมีความหมายเพิ่มเติมดังนี้คือ ชอบความสวยงาม,สะดวกสบาย ชอบสะสม เป็นผู้ที่มีความมั่นคง มีความนึกคิดรอบคอบ มีความอดทน
เก็บออมเก่ง มีความอดกลั้นและรอคอยได้ดี ไม่เหลวไหล ไม่ฟุ้งเฟ้อ
เป็นนักวางแผน ดื้อ,ไม่ยอมฟังเหตุผลของใคร ไม่ค่อยปรับปรุงตนเอง ขี้เกียจและหวงของ
ราศีเมถุน
มีความหมายโดยการนำลักษณะนิสัยของดาวพุธมาผสมกับธาตุลมปลายธาตุของราศีนี้
เมื่อมีดาวมาสถิตก็จะส่งผลให้ดาวนั้นๆมีความหมายเพิ่มเติมดังนี้คือ มีความรู้รอบตัวที่ดี เข้าใจเรื่องราวต่างๆได้รวดเร็ว มีไหวพริบปฏิภาณว่องไว แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้เก่ง ทำให้สามารถปรับปรุงตัวให้เข้ากับบุคคลและสิ่งแวดล้อมได้ดี เป็นผู้ที่มองโลกในแง่ดี วาจามีเสน่ห์เป็นมิตรกับทุกคน คารมดี
และชอบต่อปากต่อคำ ไม่ชอบทำอะไรที่ยืดเยื้อและจำเจ เปลี่ยนใจเร็วแต่ไม่ใช่โลเล
ไม่ยึดมั่นอะไรจริงจังจนดูเป็นคนขาดความจริงใจ
ราศีกรกฎ
มีความหมายโดยการนำลักษณะนิสัยของดาวจันทร์มาผสมกับธาตุน้ำต้นธาตุของราศีนี้
เมื่อมีดาวมาสถิตก็จะส่งผลให้ดาวนั้นๆมีความหมายเพิ่มเติมดังนี้คือ มีความอ่อนโยนมีความเห็นอกเห็นใจและห่วงใยคนอื่น มีความเอาใจใส่ในทุกๆเรื่อง รักครอบ ครัว
มีจิตใจละเอียดอ่อนจึงรับรู้ความรู้สึกของผู้อื่นได้ง่าย ชอบที่จะดูแลปรนนิบัติคนที่ตนเองรัก รักในงานด้านบริการ อ่อนไหวหูเบาใจน้อย
มีนิสัยหยุมหยิมชอบสอดรู้สอดเห็นเรื่องของคนอื่น ขี้อิจฉาในแบบขี้น้อยใจ อารมณ์แปรปรวนจนตามไม่ทัน
ราศีสิงห์
มีความหมายโดยการนำลักษณะนิสัยของดาวอาทิตย์มาผสมกับธาตุไฟกลางธาตุของราศีนี้
เมื่อมีดาวมาสถิตก็จะส่งผลให้ดาวนั้นๆมีความหมายเพิ่มเติมดังนี้คือ ชอบการเป็นหัวหน้า-ผู้นำ รักเกียรติ
ใจกว้างและกล้ารับผิดชอบ มักคิดการใหญ่เสมอ ชอบเป็นที่หนึ่ง ต้องการคำชมและการยอมรับจากคนรอบข้าง มีความจงรักภักดี โกรธง่ายหายเร็วและให้อภัยได้ง่ายดายเช่นกัน อีโก้แรงหัวสูง ยะโสถือตัว ชอบเบ่งและข่มคน ใจกว้างและปฏิเสธไม่เป็น กระทำตัวเกินฐานะทั้งที่ไม่มีความจำเป็น ไม่ยอมตกต่ำล้มเหลว ชอบทำเอาหน้าโดยไม่สนถึงการสูญเสียเงินทองทรัพย์สินของตนเอง
ราศีกันย์
มีความหมายโดยการนำลักษณะนิสัยของดาวพุธมาผสมกับธาตุดินปลายธาตุของราศีนี้
เมื่อมีดาวมาสถิตก็จะส่งผลให้ดาวนั้นๆมีความหมายเพิ่มเติมดังนี้คือ มีความรอบคอบ
มีวิจารณญาณลึกซึ้งเข้าถึงเหตุผล เหมาะสมกับการเป็นนักวิเคราะห์,นักวิจัย สะสมความคิดและนำมาใช้ประโยชน์ได้จริง เป็นคนพิถีพิถัน ชอบตำหนิติเตียนและวิพากษ์วิจารณ์ทั้งกับคนอื่นและตนเอง ชอบสอดแทรกในเรื่องของคนอื่น ละเอียดถี่ถ้วนเกินไปจนเกิดความลังเลวิตกกังวลและเชื่องช้าในการตัดสินใจ มักเกิดปัญหาเพราะเก็บสะสมความคิดแม้จะเป็นในทางด้านลบ
ราศีตุลย์ มีความหมายโดยการนำลักษณะนิสัยของดาวศุกร์มาผสมกับธาตุลมต้นธาตุของราศีนี้
เมื่อมีดาวมาสถิตก็จะส่งผลให้ดาวนั้นๆมีความหมายเพิ่มเติมดังนี้คือ ชอบความสวยงามแบบทันสมัยมีรสนิยม อารมณ์ดีน่ารักมีเสน่ห์ สนุกสนานร่าเริง ไม่ชอบการขัดแย้ง โลเลไม่ค่อยตัดสินใจ
มักตกเป็นทาสของสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ฟุ้งเฟ้อสนุกสนาน ไม่ค่อยมีความทะยานอยากในการพุ่งไปข้างหน้าชอบที่จะทำไปตามสิ่งที่ตนเองมีความสุขหรือสบายที่สุด
ราศีพิจิก มีความหมายโดยการนำลักษณะนิสัยของดาวอังคารมาผสมกับธาตุน้ำกลางธาตุของราศีนี้
เมื่อมีดาวมาสถิตก็จะส่งผลให้ดาวนั้นๆมีความหมายเพิ่มเติมดังนี้คือ ยังคงมีความกล้าและมีความขยันอยู่พอสมควร(ไม่จริงจังและไม่รวดเร็วเท่าราศีเมษ) รู้จักจังหวะจะโคนในการดำเนินชีวิตทำสิ่งใดก็จะไม่ทุ่มจนสุดตัวเกินไปและกระทำแบบเรื่อยๆสบายๆค่อยเป็นค่อยไป รู้จักแก้ปัญหาหรืออุปสรรคด้วยการพินิจพิจารณาอย่างถ้วนถี่ไม่ใจร้อนวู่วาม
มีน้ำใจในการช่วยเหลือผู้อื่นเมื่อได้รับการร้องขอ อาจดูรักสบายไม่ค่อยมีความจริงจังกับภาระหน้าที่ อารมณ์แปรปรวนไม่มั่นคง ถ้าขยันก็จะเป็นพักๆขึ้นอยู่กับอารมณ์ของตนเองในขณะนั้น
และขาดความตั้งใจที่แน่วแน่
ราศีธนู มีความหมายโดยการนำลักษณะนิสัยของดาวพฤหัสมาผสมกับธาตุไฟปลายธาตุของราศีนี้
เมื่อมีดาวมาสถิตก็จะส่งผลให้ดาวนั้นๆมีความหมายเพิ่มเติมดังนี้คือ มีสติปัญญาที่ดีเรียนรู้ได้รวดเร็ว มักใฝ่หาการเรียนรู้ เคร่งครัดในกฎกติกาและยึดถือขนบธรรมเนียมประเพณีอย่างจริงใจ กตัญญูสูง
ชอบดูหมิ่นความรู้ของผู้อื่น ยึดมั่นในความคิดความเชื่อของตนเอง และจะขัดแย้งกับความเชื่อของผู้อื่นที่ไม่เห็นตรงกับตนเอง ด้วยนิสัยที่ตรงๆขวานผ่าซากซึ่งอาจทำร้ายจิตใจผู้อื่นได้ประจำ ไม่ค่อยละเอียดอ่อนกับความรู้สึกคนอื่น
ราศีมังกร มีความหมายโดยการนำลักษณะนิสัยของดาวเสาร์มาผสมกับธาตุดินต้นธาตุของราศีนี้
เมื่อมีดาวมาสถิตก็จะส่งผลให้ดาวนั้นๆมีความหมายเพิ่มเติมดังนี้คือ มีความเสมอต้นเสมอปลาย เป็นคนที่เชื่อถือได้ มีความอดทนต่อความยากลำบากได้ดี มีความมั่นคงต่อจุดมุ่งหมายหรือสิ่งที่ได้รับมอบหมาย
มีความรับผิดชอบสูงมีเหตุผลและมีหลักการที่ดี พูดจริงทำจริง
รับผิดชอบครอบครัวได้ดี เป็นคนขี้ระแวง
มีความระมัดระวังที่มากเกินไป มีความเห็นแก่ตัว
ยึดติดในอำนาจและทรัพย์สิน เป็นคนเจ้าทุกข์เจ้าคิดเจ้าแค้นยิ่งกว่าราศีกันย์ และเก็บเรื่องไม่เป็นเรื่องมาคิดสะสมจนกลายเป็นความเครียด อาจไม่สมหวังในสิ่งที่ปรารถนาเพราะคิดมากและเคร่งเครียดจริงจัง
ราศีกุมภ์ มีความหมายโดยการนำลักษณะนิสัยของดาวราหูมาผสมกับธาตุลมกลางธาตุของราศีนี้
เมื่อมีดาวมาสถิตก็จะส่งผลให้ดาวนั้นๆมีความหมายเพิ่มเติมดังนี้คือ ชอบปฏิบัติและพัฒนาให้เกิดสิ่งแปลกใหม่ ชอบคิดปรับปรุง มีความฉับไวและมีวิธีที่แปลกแตกต่างในการแก้ไขปัญหาต่างๆ
ชอบการคิดค้นนอกกรอบ มีใจรักอิสรเสรีจึงไม่ยึดติดกับกรอบหรือไม่ยึดประเพณีมาเป็นสิ่งขวางกั้นชีวิตและจินตนาการ
ชอบเพ้อฝันเลื่อนลอยไร้สาระ ชอบคิดในสิ่งที่ทำจริงๆไม่ได้ ชอบสร้างวิมานในอากาศและมักทำอะไรด้วยความประมาทแบบเล็งผลประโยชน์โดยไม่คิดทบทวนไตร่ตรอง
มักมีนิสัยเย็นชาห่างเหิน ไม่มีความละเอียดอ่อนกับความรู้สึกใครๆ คิดไวจนคนอื่นตามไม่ทัน ง่ายต่อการเข้าใกล้อบายมุขทุกชนิด ไม่เคารพกฎกติกาและไม่เชื่อถือขนบธรรมเนียมประเพณี ขวางโลกและก้าวร้าว
ราศีมีน มีความหมายโดยการนำลักษณะนิสัยของดาวพฤหัสมาผสมกับธาตุน้ำปลายธาตุของราศีนี้
เมื่อมีดาวมาสถิตก็จะส่งผลให้ดาวนั้นๆมีความหมายเพิ่มเติมดังนี้คือ นิสัยอ่อนโยนผ่อนปรน มีความเกรงใจผู้อื่นอยู่เสมอ และเป็นผู้ที่มีความเสียสละ มีความละเอียดอ่อนต่อความรู้สึกของผู้อื่น มีความสุขตามอัตภาพ ไม่ค่อยสร้างความเดือดร้อนให้แก่ตนเอง ขาดความเข้มแข็งเด็ดขาด
ขาดความกล้าในการตัดสินใจจนกลายเป็นคนที่มีความขี้ขลาดและอ่อนแอ มักใจอ่อนจนไม่กล้าสู้ปัญหา เป็นราศีที่ส่งผลให้เกิดการสละทางโลกโดยการบวชก็ได้
ดาวคู่ศัตรูและดาวคู่มิตร http://thanan4astro.blogspot.com/2015/02/blog-post_20.html
ดวงตัวอย่างที่ 1 http://thanan4astro.blogspot.com/2015/02/1_18.html
ดวงตัวอย่างที่ 2 http://thanan4astro.blogspot.com/2015/02/2.html
ดวงตัวอย่างที่ 3 http://thanan4astro.blogspot.com/2015/02/3.html
ดาวคู่ศัตรูและดาวคู่มิตร http://thanan4astro.blogspot.com/2015/02/blog-post_20.html
ดวงตัวอย่างที่ 1 http://thanan4astro.blogspot.com/2015/02/1_18.html
ดวงตัวอย่างที่ 2 http://thanan4astro.blogspot.com/2015/02/2.html
ดวงตัวอย่างที่ 3 http://thanan4astro.blogspot.com/2015/02/3.html
ได้รับความรู้มีประโยชน์ค่ะ ขอบคุณค่ะ
ตอบลบ