วิธีพิจารณาแยกแยะพฤติกรรมดาวเจ้าเรือนปัตนิ
จากรูปตัวอย่าง ก. และ ข. จะเห็นว่ามีดาวเจ้าเรือนปัตนิสถิตเรือนสหัชชะเหมือนกัน หากพิจารณาด้วยระบบเรือนสู่เรือนก็จะได้ความหมายว่า
คู่ครองติดเพื่อน หรือคู่ครองเป็นคนชอบพูด หรือคู่ครองเป็นคนที่มีการเดินทาง(ใกล้ๆ)
แต่ถ้าเราใช้ระบบธาตุมาช่วยในการพิจารณาในรายละเอียดจะเห็นถึงความแตกต่างของทั้งสองดวงนี้ได้อย่างชัดเจน ความแตกต่างอันดับแรกจะเห็นได้จากความหมายของดาวที่เป็นเจ้าเรือนปัตนิ อันดับที่สองคือราศีที่เป็นเรือนสหัชชะ(ซึ่งตรงนี้จะแยกย่อยได้อีกสองประเด็นคือธาตุของราศีและความหมายของดาวเจ้าราศี) จะขออธิบายแต่ละความแตกต่างที่เกิดขึ้นเพื่อชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของความหมายดาวและราศีธาตุ
ขอพิจารณาในรูปก.เป็นลำดับแรก คือดวงชะตาที่มีดาวเสาร์เป็นเจ้าเรือนปัตนิซึ่งหมายถึงคู่ครองจะมีนิสัยตามดาวเสาร์ก็คือ
เป็นผู้ความเคร่งเครียด, รักสันโดษ, มีความตระหนี่, มีความอดทน,
เจ้าคิดเจ้าแค้น ฯลฯ เมื่อดาวเสาร์มาสถิตเรือนสหัชชะราศีกันย์(เรือนธาตุดิน)
เราจะไม่อ่านว่าเจ้าชะตาติดเพื่อนเพราะดาวเสาร์ไม่ใช่คนที่ชอบสังคม เราจะไม่อ่านว่าดาวเสาร์เป็นคนช่างพูดเพราะราศีนี้จะทำให้ดาวเสาร์ชอบเก็บงำความคิดมากกว่าแสดงออกทางการสื่อสาร
และเราจะไม่อ่านว่าเป็นคนที่ชอบเดินทางเพราะธาตุดินจะทำให้ดาวเสาร์ยิ่งยึดติดอยู่กับที่ไม่ค่อยชอบการเคลื่อนไหวมากนัก เมื่อรวมทั้งหมดก็จะทำให้ปัตนิในดวงชะตานี้ไม่ใช่คนที่ติดเพื่อนและไม่ชอบเข้าสังคม
ไม่ใช่เป็นคนที่ชอบพูดมากนัก และก็ไม่ใช่คนที่จะมีการเดินทางบ่อยๆ ดังนั้นในกรณีนี้ถ้าเราอ่านด้วยระบบเรือนก็จะตีความหมายของดาวเจ้าเรือนปัตนิผิดไปจากความเป็นจริงลิบลับ
เมื่อมาพิจารณาในรูปข. คือดวงชะตาที่มีดาวราหูเป็นเจ้าเรือนปัตนิซึ่งหมายถึงคู่ครองจะมีนิสัยตามดาวราหูก็คือ
เป็นคนคล่องแคล่วว่องไว มีไหวพริบ
เป็นคนไม่มีวินัยและไม่ค่อยให้ความใส่ใจต่อผู้ใดมากนัก
มีแนวโน้มในการเกี่ยวข้องกับอบายมุขได้ง่าย ฯลฯ
เมื่อดาวราหูมาสถิตเรือนสหัชชะราศีตุลย์(เรือนธาตุลม) เราจะอ่านคล้ายความหมายตามระบบเรือนสู่เรือนแต่จะมีรายละเอียดเพิ่มเติมเรื่องราวจากความหมายของราศีเข้าไปด้วยคือ ดาวราหูนี้จะได้รับธาตุลม(ต้นธาตุ)ผสมกับความหมายของดาวศุกร์เจ้าราศีตุลย์เข้าไป ทำให้ดาวราหูเจ้าเรือนปัตนิมีความหมายว่า เป็นคนที่มีความว่องไวและมีไหวพริบปฏิภาณสูง มักติดเพื่อนและชอบเข้าสังคมที่สนุกสนานเฮฮา อาจจะมองว่าเป็นคนเจ้าชู้ได้อีกด้วยเพราะความผันผวนของธาตุลมทำให้ไม่มีความจริงจังหรือยึดติดอยู่กับผู้ใดได้นานๆ หากเมื่อไหร่ที่คนที่ใกล้ชิดไม่ได้ให้ความสุขหรือตนเองไม่มีความสนุกสนานตามที่ต้องการก็จะผละหนีไปได้ทันที และดาวราหูไม่ค่อยมีระเบียบวินัยเมื่อมาอยู่ราศีตุลย์จึงอาจทำให้ดาวราหูนี้สนุกสนานจนเกินเลย
หรือสนุกสนานจนไม่คำนึงถึงความถูกต้องเลยก็เป็นได้สรุปแล้วการอ่านพื้นดวงชะตานั้นเราไม่ควรจะใช้เพียงวิธีการอ่านเรือนสู่เรือนเพียงอยางเดียว ควรจะต้องพิจารณาถึงความหมายดาวและราศีธาตุที่ดาวนั้นไปสถิต หวังว่าสิ่งที่ผมได้แนะนำไปนี้จะมีประโยชน์กับผู้ที่กำลังศึกษา เพื่อนำไปเพิ่มเติมต่อยอดให้มีมุมมองในการอ่านดวงชะตาได้ชัดเจนมากขึ้นนะครับ
กลับไปดู : สอนการอ่านพื้นดวง http://thanan4astro.blogspot.com/2015/02/blog-post_16.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น