วิธีทำนายดวงชะตาอย่างง่าย แต่ได้ผลชัดเจนและมีความแม่นยำสูง

         ในการทำนายโหราศาสตร์ให้ถูกต้องแม่นยำตามแบบโบราณนั้นมีเคล็ดลับอยู่ใกล้ๆตัวทุกคน   ธรรมชาติของดาวและราศีธาตุที่เราเห็นๆกันอยู่ในดวงชะตาได้ซ่อนความลับเอาไว้มากมาย   เพียงแต่เราไปยึดติดกับการทำนายโดยใช้เส้นทางลัดแบบจดจำกฎเกณฑ์ต่างๆมาใช้มากเกินไป   คงจะเป็นเพราะวิถีการดำเนินชีวิตของเราทุกวันนี้ได้บังคับให้เรายึดติดในความรวดเร็วจนละเลยถึงรายละเอียดของธรรมชาติไปเสียสิ้น  หากเราหันมามองให้เข้าใจธรรมชาติของดาวและราศีธาตุให้มากๆก็จะทำให้มีความเข้าใจในดวงชะตาได้ดียิ่งขึ้น
        โดยธรรมชาติของดาวแต่ละดวงถูกกำหนดขึ้นมาให้เป็นตัวแสดงบทบาทไม่ซ้ำแบบกัน   ราศีแต่ละราศีก็ให้ความหมายที่ส่งผลต่อดาวที่ไปสถิตว่าจะแสดงพฤติกรรมเช่นใดในบทบาทของตน และเรือนแต่ละเรือนก็เป็นตัวกำหนดว่าดาวเจ้าเรือนหรือดาวที่มาสถิตลอยในเรือนนั้นๆกำลังแสดงเรื่องราวอะไร กฎง่ายๆในการโหราศาสตร์ก็มีแค่สามข้อนี้เท่านั้นแต่เรากลับละเลยในการนำมาใช้อย่างจริงจัง กลับหันไปหาวิธีที่มีการกำหนดคำทำนายแบบตายตัว ทำให้ไม่มีความพลิ้วไหวและไม่เกิดการคล่องตัวในการอ่านดวงชะตา

         ในส่วนของซึ่งผู้รับคำทำนายนั้นอาจจะไม่รู้สึกถึงความแตกต่างที่เกิดขึ้น  แต่ผู้ที่กำลังศึกษาโหราศาสตร์จนถึงจุดที่เริ่มทำนายได้บ้างแล้วจะรู้ได้เลยว่า บางครั้งเราก็หาคำตอบให้แก่ดวงชะตาไม่ได้ว่าทำไมถึงเกิดเหตุเช่นนี้...
         ดังนั้นผู้ที่กำลังเริ่มต้นศึกษาในขั้นต้น   ผมจึงอยากให้หันมาสนใจในการศึกษาในระบบที่เรียกว่า “ดวงอีแปะ”   เพราะให้ความสะดวกในการก้าวต่อไปในระบบที่ยากขึ้น(ตามที่ท่านเห็นสมควร)    แต่หากได้ศึกษาดวงอีแปะอย่างจริงจังก็จะทราบได้เองว่ามีความจำเป็นที่จะต้องเรียนเพิ่มเติมหรือไม่    ผมขอยืนยันว่า “ดวงอีแปะ” เป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกที่สุดสำหรับมือใหม่   วิธีการทำนายของระบบอื่นๆก็ง่ายเช่นกันแต่อาจต้องท่องจำกฎเกณฑ์เยอะแยะไปสักหน่อย   หลักการสำคัญของดวงอีแปะมีแค่ความ หมายของดาว 10 ดวง, ราศีธาตุทั้ง 12 ราศี, เรือน 12 เรือน     
         การเริ่มต้นนั้นควรจะเริ่มจากสิ่งที่ง่ายเสียก่อนแล้วค่อยพัฒนาไปสู่สิ่งที่ยากขึ้น ในปัจจุบันผมก็ใช้วิธีทำนายด้วย “ดวงอีแปะ”   โดยไม่ต้องพึ่งพากฎเกณฑ์อื่นใดก็ไม่เกิดปัญหาติดขัดต่อการออกคำทำนาย  มีความไหลลื่นและสนุกกับการได้คิดมากกว่าแต่ก่อนเสียอีก       ผมหวังว่ากจะสามารถกระตุ้นให้หลายๆคนได้หันมาลองศึกษา “ดวงอีแปะ” กันให้มากยิ่งขึ้นนะครับ