วันพฤหัสบดีที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

บทสวดมนต์เมื่อได้รับผลจากดวงดาวโคจร

         เมื่อขณะที่ดาวโคจรนั้นอาจจะส่งผลได้ทั้งด้านบวกหรือด้านลบแก่ดวงชะตา  ซึ่งเราสามารถใช้บทสวดนี้เพื่อเป็นการส่งเสริม(เมื่อคราวดาวจรมาให้ผลดี)  หรือลดทอน(เมื่อคราวดาวจนมาให้ผลร้าย)   แต่ถ้าจะให้เป็นการดีสำหรับผู้ที่ไม่ทราบว่าเมื่อใดดาวจรมาให้คุณหรือโทษก็ควรสวดมนต์ทุกบทให้ได้ทุกคืนก็จะดี

ดาวอาทิตย์   เสริมด้วย  “โมระปริตร”  แก้ด้วย  “วัฏกะปริตร  
(บทแรกเป็น “คาถานกยูง” เห็นพระอาทิตย์ขึ้น ก็ออกไปทำมาหากิน บทต่อมาเป็น “คาถานกคุ่ม” เนื้อหาเกี่ยวกับไฟป่าที่จะลามมาที่รังนกคุ่ม จึงตั้งจิตเอาศีลเป็นที่ตั้งเพื่อให้ไฟไม่ทำอันตราย จะเห็นว่าบทแรกอาทิตย์ส่งคุณตามเนื้อหา   บทต่อ มาแก้อาทิตย์หรือไฟที่จะมาทำอันตราย  สมมติว่าอาทิตย์ดีจะเสริมให้ยิ่งขึ้นก็สวดบทแรก ถ้าอาทิตย์เสียเช่นเป็นกาลี เป็นมรณะ วินาสน์ พยายะ หินะ อริ หรือชนดาวร้าย ทำร้ายตัว ต้องสวด “บทนกคุ่ม” เพื่อให้ช่วยแก้ไขดวงชะตา)
                                       โมระปริตร
                            อุเทตะยัญจักขุมา เอกราชา                                  หะริสสะวัณโณ ปะฐะวิปปะภาโส
                      ตัง ตัง นะมัสสามิ หะริสสะวัณณัง ปะฐะวิปปะภาสัง     ตะยัชชะ คุตตา วิหะเรมุ ทิวะสัง
                           เย พรัห์มะณา เวทะคุ สัพพะธัมเม                          เต เม นะโม เต จะ มัง ปาละยันตุ
                      นะมัตถุ พุทธานัง มะมัตถุ โพธิยา                                 นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา
                      อิมัง โส ปะริตตัง กัตวา โมโร จะระติ เอสะนา
                             อะเปตะยัญจักขุมา เอกราชา                                หะริสสะวัณโณ ปะฐะวิปปะภาโส
                      ตัง ตัง นะมัสสามิ หะริสสะวัณณัง ปะฐะวิปปะภาสัง      ตะยัชชะ คุตตา วิหะเรมุ รัตติง
                          เย พรหมมะณา เวทะคุ สัพพะธัมเม                          เต เม นะโม เต จะ มัง ปาละยันตุ
                      นะมัตถุ พุทธานัง มะมัตถุ โพธิยา                                  นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา
                      อิมัง โส ปะริตตัง กัตวา โมโร วาสะมะกัปปะยีติ

                            วัฏกะปริตร
                   อัตถิ โลเก สีละคุโณ สัจจัง โสเจยยะนุททะยา          เตนะ สัจเจนะ กาหามิ สัจจะกิริยะมะนุตตะรัง
                   อาวัชชิตวา ธัมมะพะลัง สะริตวา ปุพพะเก ชิเน       สัจจะพะละมะวัสสายะ สัจจะกิริยะมะกาสะหัง
                   สันติ ปักขา อะปัตตะนา สันติปาทา อะวัญจะนา     มาตา ปิตา จะ นิกขันตา ชาตะเวทะ ปะฏิกกะมะ
                   สะหะ สัจเจ กะเต มัยหัง มะหาปัชชะลิโต สิขี           วัชเชสิ โสฬะสะกะรีสานิ อุทะกัง ปัตวา ยะถา สิขี
                   สัจเจนะ เม สะโม นัตถิ เอสา เม สัจจะปาระมีติฯ


ดาวจันทร์     เสริมและแก้ด้วยคาถา ยันทุนฯ ”
ยันทุนนิมิตตัง  อะวะมังคะลัญจะ  โย  จามะนาโป  สุกะณัสสะ  สัทโท  ปาปัดคะโห  ทุสสุปินัง  อะกันตัง  พุทธานุภาเวนะ  วินาสะเมนตุฯ            
ยันทุนนิมิตตัง  อะวะมังคะลัญจะ  โย  จามะนาโป  สุกะณัสสะ  สัทโท  ปาปัดคะโห  ทุสสุปินัง  อะกันตัง  ธัมมานุภาเวนะ  วินาสะเมนตุฯ           
ยันทุนนิมิตตัง  อะวะมังคะลัญจะ  โย  จามะนาโป  สะกุณัสสะ  สัทโท  ปาปัดคะโห  ทุสสุปินัง  อะกันตัง  สังฆานุภาเวนะ  วินาสะเมนตุฯ


ดาวอังคาร    เสริมและแก้ด้วย “ บทกะระณียะเมตตะสูตร ”
             เมตตัญจะ  สัพพะโลกัสสะมิง  มานะสัมภาวะเย  อะปะริมาณัง
   อุทธัง  อะโธจะ  ติริยัญจะ อะสัมพาธัง  อะเวรัง  อะสะปัตตัง   ติฏฐัญจะรัง  นิสินโน  วา  สะยาโน  วา  ขาวะตัสสะ  วิคะตะมิทโธ     เอตัง  สะติง  อะธิฏเฐยยะ  พรหมมะเมตัง  วิหารัง  อิธะมาหุ  ทิฏฐิญจะ  อะนุปะคัมมะ  สีละวา  ทัสสะเนนะ สัมปันโน  กาเมสุ  วิเนยยะธัง นะ  หิชาติ  คัพภะเสยยัง  ปุนะเรตี  ติ


ดาวพุธ        บทขัณฑปริตร” เป็นบทที่ใช้แก้ไขดวงชะตาและใช้ป้องกันพิษจากสัตว์ร้าย (ทางนามธรรม คือ การพูดให้ร้าย พูดไม่ดีจากสังคม)      บทเสริมดวงคือ “ฉัททันต์ปริตร”  เป็นบทที่พระยาช้างฉัททันต์โดนเลื่อยงา แต่ตั้งใจมั่นไม่ยอมทำร้ายผู้ทรงศีล   
                                      บทขัณฑปริตร
               อัปปะมาโณ พุทโธ   อัปปะมาโณ ธัมโม   อัปปะมาโณ สังโฆ    ปะมาณะวันตานิ สิริงสะปานิ อะหิ วิจฉิกา
       สะตะปะที อุณณานาภี สะระภู มูสิกา   กะตา เม รักขา กะตา เม ปะริตตา    ปะฏิกกะมันตุ ภูตานิ โสหัง
       นะโม ภะคะวะโต นะโม สันตันนัง สัมมาสัมพุทธานัง ฯ

                            ฉัททันตปริตร
              วะธิสสะเมนันติ  ปะรามะสันโต     กาสาวะมัททักขิ ธะชัง อิสีนัง     ทุกเขนะ  ผุฎฐัสสุทะปาทิ สัญญา
         อะระหัทธะโช สัพภิ อะวัชฌะรูโป    สัลเลนะ วิทโธ พะยะถิโตปิ สันโต     กาสาวะวัตถัมหิ มะนัง นะ ทุสสะยิ
         สะเจ อิมัง นาคะวะเรนะ สัจจัง    มา มัง วะเน พาละมิคา อะคัญฉุนติ ฯ

ดาวพฤหัสฯ   แก้และเสริมด้วย “รัตนสูตร”
            ยังกิญจิ วิตตัง อิธะ วา หุรัง วา    สะเคสุ วา ยัง ระตะนัง ปะณีตัง   นะ โน สะมัง อัตถิ ตะถาคะเตนะ  อิทัมปิ พุทเธ ระตะนัง ปะณีตัง   เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ   ขะยัง วิราคัง อะมะตัง ปะณีตัง   ยะทัชฌะคา สักยะมุนี สะมาหิโต  นะ เตนะ ธัมเมนะ สะมัตถิ กิญจิ   อิทัมปิ ธัมเม ระตะนัง ปะณีตัง   เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ  ยัมพุทธะเสฏโฐ ปะริวัณณะยีสุจิงสะมาธิมานันตะริกัญญะมาหุ   สะมาธินา เตนะ สะโม นะ วิชชะติ  อิทัมปิ ธัมเม ระตะนัง ปะณีตัง  เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ   เย ปุคคะลา อัฏฐะ สะตัง ปะสัฏฐา   จัตตาริ เอตานิ ยุคานิ โหนติ   เต ทักขิเณยยา สุคะตัสสะ สาวะกา   เอเตสุ ทินนานิ มะหัปผะลานิ   อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง   เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ    เย สุปปะยุตตา มะนะสา ทัฬเหนะ    นิกกามิโน โคตะมะสาสะนัมหิ   เต ปัตติปัตตา อะมะตัง วิคัยหะ   ลัทธา มุธา นิพพุติง ภุญชะมานา   อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง   เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ   ขีณัง ปุราณัง นะวัง นัตถิ สัมภะวัง  วิรัตตะจิตตายะติเก ภะวัสมิง   เต ขีระพีชา อะวิรุฬหิฉันทา  นิพพันติ ธีรา ยะถายัมปะทีโป  อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง  เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ



ดาวศุกร์         แก้ด้วยบท “อาฏานาติยะปริตร” (บทวิปัสสิทสะ สวดจนถึง พุทธังวันทามะโกตะมันติ )        เสริมด้วย “อิติปิโส ฯ”(จริงๆ คือ “บทธชัคสูตร” แต่ถือว่ามีบทอิติปิโส ฯ อยู่ในพระสูตรนี้ จึงตัดเอามาสวดเพื่อความสะดวก    ฉะนั้นการสวด “อิติปิโส” เพื่อเสริมดาวศุกร์ จึงต้องพึงระลึกถึงบทธชัคคสูตรก่อนสวดเสมอ เพราะที่มาต่างจากบทอิติปิโสฯ ทั่วไป)
                                       อาฏานาติยะปริตร
                        วิปัสสิสสะ นะมัตถุ จักขุมันตัสสะ สิรีมะโต            สิขิสสะปิ นะมัตถุ สัพพะภู ตานุกัมปิโน
                  เวสสะภุสสะ นะมัตถุ นหาตะกัสสะ ตะปัสสิโน             นะมัตถุ กะกุสันธัสสะ มาระเสนัปปะมัททิโน
                  โกนาคะมะนัสสะ นะมัตถุ พราหมะณัสสะวุสีมะโต      กัสสะปัสสะ นะมัตถุ วิปปะมุตตัสสะ สัพพะธิ
                  อังคีระสัสสะ นะมัตถุ สักยะปุตตัสสะ สิรีมะโต             โย อิมัง ธัมมะมะเทเสสิ สัพพะทุกขาปะนูทะนัง
                  เย จาปิ นิพพุตาโลเก ยะถาภูตัง วิปัสสิสุง                     เต ชะนา อะปิสุณา มะหันตา วีตะสาระทา
                  หิตัง เทวะมะนุสสานัง ยัง นะมัสสันติ โคตะมัง             วิชชาจะระณะสัมปันนัง มะหันตัง วีตะสาระทัง
                  วิชชาจะระณะสัมปันนัง วันทามะ โคตะมันติ

                       บทธชัคสูตร (อิติปิโส ฯ)
        อิติปิ  โส   ภะคะวา   อะระหัง   สัมมาสัมพุทโธ  วิชชาจะระณะ - สัมปันโน  สุคะโต  โลกะวิทู   อะนุตตะโร   ปุริสะทัมมะสาระถิ  สัตถา เทวะมะนุสสานัง  พุทโธ ภะคะวาติ มะมัง  หิ  โว ภิกขะเว  อะนุสสะระตัง  ยัมภะวิสสะติ  ภะยัง  วา  ฉัมภิตัตตัง  วา  โลมะหังโส  วา   โส  ปะหิยยิสสะติ   โน  เจ  มัง  อะนุสสะเรยยาถะ  อะถะ  ธัมมัง  อะนุสสะเรยยาถะ       
        สวากขาโต   ภะคะวะตา   ธัมโม  สันทิฏฐิโก   อะกาลิโก   เอหิปัสสิโก  โอปะนะยิโก  ปัจจัตตัง  เวทิตัพโพ  วิญญูหี  ติ ธัมมัง  หิ โว  ภิกขะเว  อะนุสสะระตัง  ยัมภะวิสสะติ  ภะยัง  วา  ฉัมภิตัตตัง วา  โลมะหังโส  วา  โส  ปะหิยะยิสสะติโน  เจ  ธัมมัง  อะนุสสะเรยยาถะ  อะถะ   สังฆัง   อะนุสสะเรยยาถะ
        สุปะฏิปันโน  ภะคะวะโต  สาวะกะสังโฆ  อุชุปะฏิปันโน     ภะคะวะโต  สาวะกะสังโฆ  ญายะปะฏิปันโน  ภะคะวะโต  สาวะกะสังโฆ  สามีจิปะฏิปันโน  ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ  ยะทิทัง  จัตตาริ ปุริสะยุคานิ  อัฏฐะ  ปุริสะปุคคะลา  เอสะ  ภะคะวะโต  สาวะกะสังโฆ  อาหุเนยโย    ปาหุเนยโย  อัญชะลีกะระณีโย  อะนุตตะรัง  ปุญญักเขตตัง  โลกัสสาติ



ดาวเสาร์        แก้ด้วยบท “ยะโตหัง ฯ”    เสริมด้วย “โพชฌงค์ปริตร
                                    ยะโตหัง
               ยะโตหัง ภะคินิ อะริยายะ ชาติยา ชาโต นาภิ ชานามิ สัญจิจจะ
 ปาณัง ชีวิตา โวโรเปตา เตนะ สัจเจนะ โสตถิ เต โหตุ โสตถิ คัพภัสสะ ฯ

                    โพชฌงค์ปริตร
               โพชฌังโค  สะติสังขาโต     ธัมมานัง  วิจะโย  ตะถา         วิริยัมปีติปัสสัทธิ     โพชฌังคา  จะ  ตะถาปะเร
         สะมาธุเปกขะโพชฌังคา     สัตเต  เต  สัพพะทัสสินา             มุนินา  สัมมะทักขาตา      ภาวิตา  พะหุลีกะตา
         สังวัตตันติ  อะภิญญายะ     นิพพานายะ  จะ  โพธิยา            เอเตนะ  สัจจะวัชเชนะ    โสตถิ  เต  โหตุ  สัพพะทาฯ
         เอกัสะมิง  สะมะเย  นาโถ   โมคคัลลานัญจะ  กัสสะปัง          คิลาเน  ทุกขิเต  ทิสะวา     โพชฌังเค  สัตตะ  เทสะยิ
         เต  จะ  ตัง  อะภินันทิตะวา     โรคา  มุจจิงสุ  ตังขะเณ           เอเตนะ  สัจจะวัชเชนะ    โสตถิ  เต  โหตุ  สัพพะทาฯ
         เอกะทา  ธัมมะราชาปิ      เคลัญเญนาภิปีฬิโต                      จุนทัตเถเรนะ  ตัญเญวะ  ภะณาเปตะวานะ สาทะรัง
        สัมโมทิตะวา  จะ  อาพาธา     ตัมหา  วุฏฐาสิ  ฐานะโส           เอเตนะ  สัจจะวัชเชนะ    โสตถิ  เต  โหตุ  สัพพะทาฯ
        ปะหีนา  เต  จะ  อาพาธา     ติณณันนัมปิ  มะเหสินัง              มัคคาหะตะกิเลสาวะ       ปัตตานุปปัตติธัมมะตัง
        เอเตนะ  สัจจะวัชเชนะ     โสตถิ  เต  โหตุ  สัพพะทาฯ



ดาวราหู         แก้ด้วยบท “กินนุฯ”   เสริมด้วยบท “อาฏานาติยะปริตร”    
                            กินนุฯ  
                     กินนุ สันตะระมาโน วะราหุ สุริยัง ปะมุญจะสิ       สังวิคคะรูโป อาคัมมะกินนุ ภีโต วะ ติฏฐะสีติ
              สัตตะธา เม ผะเล มุทธา ชีวันโต นะ สุขัง ละเภ             พุทธะคาถาภิคีโตมหิ โน เจ มุญเจยยะ สุริยันติ.
              กินนุ สันตะระมาโน วะราหุ จันทัง ปะมุญจะสิ             สังวิคคะรูโป อาคัมมะ กินนุ ภีโต วะ ติฏฐะสีติ
              สัตตะธา เม ผะเล มุทธา ชีวันโต นะ สุขัง ละเภ            พุทธะคาถาภิคีโตมหิ โน เจ มุญเจยยะ สุริยันติ

                         อาฏานาติยะปริตร
                           วิปัสสิสสะ นะมัตถุ จักขุมันตัสสะ สิรีมะโต          สิขิสสะปิ นะมัตถุ สัพพะภู ตานุกัมปิโน
                  เวสสะภุสสะ นะมัตถุ นหาตะกัสสะ ตะปัสสิโน             นะมัตถุ กะกุสันธัสสะ มาระเสนัปปะมัททิโน
                 โกนาคะมะนัสสะ นะมัตถุ พราหมะณัสสะวุสีมะโต       กัสสะปัสสะ นะมัตถุ วิปปะมุตตัสสะ สัพพะธิ
                  อังคีระสัสสะ นะมัตถุ สักยะปุตตัสสะ สิรีมะโต             โย อิมัง ธัมมะมะเทเสสิ สัพพะทุกขาปะนูทะนัง
                 เย จาปิ นิพพุตาโลเก ยะถาภูตัง วิปัสสิสุง                      เต ชะนา อะปิสุณา มะหันตา วีตะสาระทา
                 หิตัง เทวะมะนุสสานัง ยัง นะมัสสันติ โคตะมัง               วิชชาจะระณะสัมปันนัง มะหันตัง วีตะสาระทัง
                 วิชชาจะระณะสัมปันนัง วันทามะ โคตะมันติ

ดาวเกตุ      แก้และเสริมด้วยบท  “ มหากาฯ ”
          มหาการุณิโก นาโถ หิตายะ สัพพะปาณินัง ปูเรตวา  ปาระมี สัพพา   ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ
โหตุ เต ชะยะมังคะลัง   ชะยันโต โพธิยา มูเล สักยานัง   นันทิวัฑฒะโน เอวัง ตะวัง วิชะโย โหหิ ชะยัสสุ ชะยะมังคะเล
อะปะราชิตะปัลลังเก สีเส ปะฐะวิโปกขะเร อะภิเสเก สัพพะ   พุทธานัง อัคคัปปัตโต ปะโมทะติฯ สุนักขัตตัง สุมังคะลัง
สุปะภาตัง สุหุฏฐิตัง สุขะโณ สุมุหุตโต จะ สุยิฏฐัง พรัหมะ   จารีสุ ปะทักขิณัง กายะกัมมัง วาจากัมมัง ปะทักขิณัง      ปะทักขิณัง    มโนกัมมัง ปะณิธี เต ปะทักขิณา ปะทักขิณานิ กัตวานะ ละภันตัดเถ ปะทักขิเณ  
                 ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา        สัพพะพุทธา นุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต*
                 ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา        สัพพะธัมมา นุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต*
                 ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา        สัพพะสังฆา นุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต*
( * ถ้าสวดให้คนอื่นใช้คำว่า เต สวดให้ตัวเองใช้คำว่า เม (เต แปลว่าท่าน - เม แปลว่าข้าพเจ้า )


ดาวมฤตยู     แก้ได้หลายบท ดาวนี้ไม่มีบทสวดเสริมดวงเพราะหมายถึง สูญ พลิกผัน ไม่มี เสื่อมสลาย 
แก้ความหมายของความว่างเปล่าหรือไม่มี คือบท “อิติปิโส ฯ” ในธชัคคสูตร     
แก้ความหมายของความเสื่อมสลายใช้บท “อุณหิสวิชัย” ซึ่งเป็นบทที่เทวดาใช้ต่ออายุตนเอง  
แก้ความหมายของความพลิกผัน เปลี่ยนแปลงฉับพลัน ใช้บท “สังคินี” ซึ่งเป็นบทในพระอภิธรรม 7 คัมภีร์ ซึ่งใช้สวดในงานศพ แต่เราก็สวดได้

                    บทธชัคสูตร (อิติปิโส ฯ)
        อิติปิ  โส   ภะคะวา   อะระหัง   สัมมาสัมพุทโธ  วิชชาจะระณะ - สัมปันโน  สุคะโต  โลกะวิทู   อะนุตตะโร   ปุริสะทัมมะสาระถิ  สัตถา เทวะมะนุสสานัง  พุทโธ ภะคะวาติ มะมัง  หิ  โว ภิกขะเว  อะนุสสะระตัง  ยัมภะวิสสะติ  ภะยัง  วา  ฉัมภิตัตตัง  วา  โลมะหังโส  วา   โส  ปะหิยยิสสะติ   โน  เจ  มัง  อะนุสสะเรยยาถะ  อะถะ  ธัมมัง  อะนุสสะเรยยาถะ
        สวากขาโต   ภะคะวะตา   ธัมโม  สันทิฏฐิโก   อะกาลิโก   เอหิปัสสิโก  โอปะนะยิโก  ปัจจัตตัง  เวทิตัพโพ  วิญญูหี ติ ธัมมัง  หิ โว  ภิกขะเว  อะนุสสะระตัง  ยัมภะวิสสะติ  ภะยัง  วา  ฉัมภิตัตตัง วา  โลมะหังโส  วา  โส  ปะหิยะยิสสะติโน  เจ  ธัมมัง  อะนุสสะเรยยาถะ  อะถะ   สังฆัง   อะนุสสะเรยยาถะ
         สุปะฏิปันโน  ภะคะวะโต  สาวะกะสังโฆ  อุชุปะฏิปันโน     ภะคะวะโต  สาวะกะสังโฆ  ญายะปะฏิปันโน  ภะคะวะโต  สาวะกะสังโฆ  สามีจิปะฏิปันโน  ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ  ยะทิทัง  จัตตาริ ปุริสะยุคานิ  อัฏฐะ  ปุริสะปุคคะลา  เอสะ  ภะคะวะโต  สาวะกะสังโฆ  อาหุเนยโย    ปาหุเนยโย  อัญชะลีกะระณีโย  อะนุตตะรัง  ปุญญักเขตตัง  โลกัสสาติ

                            อุณหิสวิชัย
                    อัตถิ อุณหิสสะ วิชะโย ธัมโม โลเก อะนุตตะโร         สัพพะสัตตะหิตัตถายะ ตังตวังคัณหาหิ เทวะเต
           ปะริวัชเช ระชะทัณเฑ อะมะนุสเสหิ ปาวะเก                     พะยัคเฆ นาเค วิเส ภูเต อะกาละมะระเณนะ วา
           สัพพัสมา มะระณา มุตโต ฐะเปตวา กะละมาริตัง             ตัสเสวะ อานุภาเวนะ โหตุ เทโว สุขี สะทา
           สุทธะ สีลัง สะมาทายะ ธัมมัง สุจะริตัง จะเร                     ตัสเสวะ อานุภาเวนะ โหตุ เทโว สุข สะทา
           ลิกขิตัง จินติตัง ปูชัง ธาระนัง วาจะนัง คะรุง                     ปะเรสัง เทสะนังสุตวา ตัสสะ อายุ ปะวัฑฒะตีติ

                                            สังคินี
        กุสะลา ธัมมา อะกุสะลา ธัมมา อัพยากะตา ธัมมา  กะตะเม  ธัมมา  กุสะลา  ยัสมิง สะมะเย กามาวะจะรัง กุ สะลัง จิตตัง อุปปันนัง  โหติ โสมะนัสสะสะหะคะตัง ญาณะสัมปะยุตตัง รู ปารัมมะณัง วา  สัททารัมมะณัง วา คันธารั มมะณัง  วา  ระสารัมมะณัง วา โผฏฐัพพา-รัมมะณัง วา ธัมมารัมมะณัง วา ยัง ยัง วา ปะนารัพภะ ตัสมิง  สะมะเย ผัสโส โหติ อะวิกเขโป โหติ เย วา ปะนะ ตัสมิง  สะมะเย อัญเญปิ อัตถิ ปะฏิจจะสะมุปปันนา อะรูปิโน ธัมมา อิเม  ธัมมา กุสะลา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น